ค้นหาบล็อกนี้

วันเสาร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

สร้างรายได้ออนไลน์กับเว็บคลิ๊ก

การหาเงินจากการเป็นสมาชิกของธุรกิจเว็บคลิ๊กต่างๆนั้น ไม่ใช่หนทางที่จะทำให้คุณร่ำรวยและมีรายได้หลายหมื่นหลายแสนบาทต่อเดือน แต่เป็นงานออนไลน์ที่ทำให้คุณสามารถสร้างรายได้ ทันทีที่คุณสมัครโดยไม่ต้องลงทุนเงินเลยสักบาท ซึ่งแตกต่างจากธุรกิจเครือข่ายแบบอื่นที่เราต้องลงทุนจ่ายเงินค่าสมาชิกและต้องลงทุนซื้อสินค้าทุกๆเดือน เพื่อทำเงินจากการเป็นสมาชิกของธุรกิจเหล่านั้น

เว็บคลิ๊กที่จ่ายจริงและน่าเชื่อถือมาก
ในส่วนนี้คือเว็บคลิ๊กที่เป็นที่สุดของที่สุดซึ่งจ่ายจริง จ่ายมานาน และมีแนวโน้วสูงว่าจะจ่ายต่อไปในอนาคต บริษัทเหล่านี้มีการดำเนินงานที่ดีและมีผลกำไรมาโดยตลอด พวกเขาเปิดมานานหลายปี รวมทั้งยังมีเสียงบ่นเพียงน้อยนิดจากเหล่านักคลิ๊กทั่วโลก นอกจากนั้นเรายังพยายามคัดกรองเอามาเฉพาะเว็บคลิ๊กที่เหมาะกับนักคลิ๊กชาวไทยอย่างพวกเรา อาจจะนำมาไม่ครบเพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะลองตรวจสอบทุกๆเว็บคลิ๊กที่มีอยู่ แต่ถ้าเรานำมาลงไว้ในรายชื่อข้างล่างนี้ ก็แสดงว่า เขาได้รับการยอมรับจากสมาชิกทั่วโลกแล้วว่าน่าเชื่อถือมากถึงมากที่สุด และเราก็ได้ทดลองเป็นมาชิกของพวกเขาเรียบร้อยแล้วด้วย และยังคงเป็นอยู่จนถึงปัจจุบัน และจะเป็นต่อไปในอนาคต


Neobux

LinkGrand

MatrixMails

WordLinx

FusionMails

วันศุกร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

รู้ทันกลลวง งานผ่านเน็ต งานไหนแท้ งานไหนเทียม!

การที่เราจะทำงานผ่านอินเตอร์เน็ต หรือธุรกรรมออนไลน์ ควรมีความระมัดระวังเป็นอย่างมาก ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะหางานจากอินเตอร์เน็ตโดยการ Search เข้าไป ซึ่งสิ่งที่เราค้นหาได้อาจมีทั้งงานจริงและงานลวง สิ่งที่คุณควรระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งคือการถูกหลอกให้โอนเงินก่อนล่วงหน้าเพื่อทำงานนี้ เพือแลกกับค่าตอบแทนสูงๆ คุณๆทั้งหลายไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ และก็ไม่ควรจะไปเสี่ยงกับอะไรที่เราไม่รู้เลยว่าจริงแท้เพียงใด

การที่เราโอนเงินไปให้มันก่อน เราจะรู้ได้อย่างไรว่า คุณจะได้รับรายได้จากตรงนี้แน่นอน หรือถ้าได้รายได้จากส่วนนี้มันคุ้มหรือกับสิ่งที่เสียไป

ธุรกิจทุกอย่างมีกลยุทธ์ของมัน ขึ้นอยู่กับว่ามันดึงดูดคุณได้มากน้อยเพียงใด ทำให้คุณสนใจมากแค่ไหน และเมื่อคุณสนใจแล้วคุณพร้อมที่จะเสียงกับมันหรือไหม ถ้าคุณพร้อมที่จะเสียงแล้ว รับรองได้เลยว่าพวกธุรกิจเหล่านี้คงยิ้มหวานเลยสิ

กลลวงอีกรูปแบบหนึ่งที่พบบ่อยคือ หลอกให้เข้าอบรม สัมภาษณ์งานผ่านเน็ต แต่จริงๆแล้วต้องขายตรง  ไม่มีระบบการทำงานที่บ้าน ผ่านเน็ตแต่อย่างไร ในการอบรมจะมีการปลุกปั้นทางจิตวิทยา ให้คุณสมัครเป็นสมาชิก และเสียเงินลงทุน อย่างน้อยหลักหมื่น-หลักแสน ใครใจไม่แข็งพอ อย่าไปเลย

อีกรูปแบบที่ควรระวังเป็นอย่างยิงคือ ถูกหลอกไปขายบริการ
ชีวิตคือความไม่แน่นอน ไม่แน่หรอกวันหนึงขณะที่คุณยังเอิญมองหางานพิเศษผ่านเน็ต ทำแก้ว่างอยู่ดีๆมารู้ตัวอีกทีคุณอาจจะกลายเป็นนักต้มตุ๋นถูกกฎหมายที่ต้องลาออกจากงานประจำ เพือมาทุ่มเทให้งานต้มตุ๋น ซึ่งต้องทำทั้งวันทั้งคืน พร้อมได้หนี้สินหลักแสนมาครอบครอง อนาคตดับวูบ มองหน้าคนไม่ติด แล้วถูกตัดขาดจากญาติมิตรไปก็ได้ ใครจะรู้
อย่าคิดว่าเรืองแบบนี้เป็นเรื่องตลก เพราะมันไม่ตลกเลย เพราะมีคนไทย(แค่กลุ่มคนไทยนะเนี่ย) เป็นหมื่นๆคน หรืออาจจะมากกว่านั้น ที่มีชีวิตบังเอิญอย่างที่กล่าวมาข้างต้น นับตั้งแต่มีองค์กรขายตรงนอกรีด ลงโฆษณาลวงด้วยประโยคง่ายๆดังต่อไปนี้
- "เด็กอายุ 17 ปี ทำงาน Part Time ได้เงินเดือนหลักแสน"
- "ทำงาน Part Time ทำอยูบ้าน รายได้เดือนละ 5,000-30,000"
- "งานผ่านเน็ตทำวันละ 2-3ชม. รายได้ดี ไม่กระทบงานประจำ" ฯลฯ
มีประโยคโฆษณาลวงเหล่านี้อยู่ต่างๆนาๆ
สำหรับองค์กรชั่วที่โฆษณาข้อความเหล่านี้ได้แก่ 1.บริษัท WBS 2.บริษัท BNA

ได้ทราบข้อมูลเหล่านี้แล้ว ก็ควรใช้วิจารณญาณที่ดีอย่างยิ่งในการหางานผ่านอินเตอร์เน็ต รายได้สูงๆทำงานง่ายๆ มันมีจริงหรือ? มีสิ่งใดบ่งบอกถึงความน่าเชื่อถือ สิ่งใดการันตีได้

ที่เราเขียนบทความพวกนี้ขึ้นมา เพราะไม่อยากให้เราเป็นเหยื่ออินเตอร์เน็ต พวกโฆษณาชั่วๆลวงๆทั้งหลาย อยากให้ทุกคนได้ระวังไว้บ้าง คิดไตร่ตรองก่อนทำอะไร ดีกว่าพลาดไปแล้วเสียใจ

สำหรับความคิดเห็นของเรา(เจ้าของบทความแล้ว) งานผ่านอินเตอร์เน็ตที่น่าเชื่อถือมากที่สุดคือ Google Adsense
เพราะเจ้าของบทความทำอยู่เจ้าค่ะ อาจจะต้องใช้เวลามาก แต่ก็คุ้มกับการไม่ต้องเสี่ยง ไม่ต้องลงทุนนะค่ะ อะไรที่ลงทุนน้อย เสียหายน้อยที่สุด ก็ทำๆไปเถอะค่ะ

Hacker ตัวป่วนแห่งโลก Cyber หรือผู้พิทักษ์ความสงบ


ถ้าพูดแล้วคงไม่มีใครไม่รู้จักคำว่า Hack ซึ่งหมายถึงการเจาะระบบ ดังนั้นผู้ที่จะเจาะระบบก็ต้องเรียกว่า Hacker ... วันนี้จะพาไปดูกันและทำความรู้จักเกี่ยวกับคำว่า Hacker ให้มากขึ้น ...




แฮกเกอร์ (hacker) หรือ นักเจาะระบบข้อมูล หมายถึง ผู้เชี่ยวชาญในสาขาคอมพิวเตอร์ บางครั้งยังใช้หมายถึงผู้เชี่ยวชาญในสาขาอื่นนอกจากค อมพิวเตอร์ด้วย โดยเฉพาะผู้ที่มีความรู้ในรายละเอียด หรือ ผู้ที่มีความเฉลียวในการแก้ปัญหาจากข้อจำกัด ความหมายที่ใช้ในบริบทของคอมพิวเตอร์นั้นได้เปลี่ยนแ ปลงไปจากความหมายดั้ง เดิม โดยผู้ใช้คำในช่วงหลังนั้นได้ใช้ในความหมายที่กว้างอ อกไป รวมทั้งในบางครั้งยังใช้ในความหมายที่ขัดแย้งกัน ... เท่าที่ผมเคยผ่านหูผ่านตามาเขาบอกว่า สามารถแบ่ง Hacker ได้เป็น 2 ประเภท คือ ฝ่ายดี หมวกขาว ฝ่ายร้าย หมวกดำ และแบบที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ หมวกเทา แต่ถ้าเป็นหมวกแดงจะเป็น ต้อย (อย่าขอหมอรำ)


Hacker นั้นใช้ใน 2 ความหมายหลัก ในทางที่ดี และ ไม่ค่อยดีนัก ความหมายที่เป็นที่นิยม และพบได้บ่อยในสื่อนั้น มักจะไม่ดี โดยจะหมายถึง อาชญากรคอมพิวเตอร์ ส่วนในทางที่ดีนั้น Hacker ยังใช้ในลักษณะของคำติดปาก หมายถึง ความเป็นพวกพ้อง หรือ สมาชิกของกลุ่มคอมพิวเตอร์ นอกเหนือจากนี้ คำว่า "แฮกเกอร์" ยังใช้หมายถึงกลุ่มของผู้ใช้คอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะโปรแกรมเมอร์ที่มีความสามารถในระดับผู้เชี่ย วชาญ อย่าง บิดาแห่ง Linux คือ Linus Torvalds (ลีนุส ทอร์วัลด์ส) ผู้สร้างลินุกซ์ นั้นก็หนึ่งในแฮกเกอร์อัจฉริยะคนนึงของโลกเลยก็ว่าได ้


นี่ล่ะครับ Linus Torvalds ส่วนข้างหลังคือชาว Linux


(ดูลุงเสื้อเหลืองข้างบนสิครับ แกเล่นไปได้)





จากความหมายที่แตกต่างข้างต้น จะเห็นได้ถึงความขัดแย้งในการใช้คำ บางกลุ่มที่ใช้คำแฮกเกอร์นี้เพื่อเรียกกลุ่มของตน ก็ไม่ชอบที่คำนี้ถูกใช้ในความหมายที่ไม่ดี และแนะนำให้ใช้คำอื่น เช่น หมวกดำ หรือ Cracker เพื่อเรียกอาชญากรคอมพิวเตอร์แทน ส่วนผู้ที่ใช้คำนี้ในความหมายที่ไม่ดี ซึ่งเป็นความหมายที่นิยมใช้กันนั้น ให้ความเห็นถึงความหมายในทางที่ดี นั้นนอกจากจะก่อให้เกิดความสับสนแล้ว ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นที่นิยมอีกด้วย ... สรุปว่าเหมาโดยรวมไปเลยว่า Hacker ไม่มีดี ซะงั้น !



ส่วนความหมายกลางนั้น ได้สังเกตถึงจุดร่วมระหว่างความหมายในทางที่ดีและไม่ ดี โดยพิจารณาการแฮกเป็นการใช้ความชำนาญ เพียงแต่อาจใช้เพื่อจุดประสงค์ที่แตกต่างกันทั้งในทา งดีและไม่ดี ... ขึ้นอยู่กับว่าได้วิชาแล้วใช้ในทางไหน



การ Hack สามารถหมายถึงวิธีการศึกษาหาคำตอบให้กับปัญหาอย่างใด อย่างหนึ่ง โดยที่มีข้อจำกัดในเรื่องของข้อมูลหรือความรู้ เพื่อให้เกิดการพัฒนาหรือความเข้าใจต่อปัญหาเหล่านั้ นได้มากขึ้น การได้ใช้คำว่า Hacker จึงเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจ เพราะเปรียบได้กับเป็นผู้คิดค้นสิ่งใหม่ที่สามารถทำง านหรือแก้ปัญหาได้ดี ขึ้นและง่ายขึ้น แต่ถ้าเป็นการแฮกที่ใช้ความรู้หรือความสามารถที่มีใน ทางที่ไม่ดี ก็จะเกิดความสับสนในการใช้คำว่า Hack ดังนั้นคำว่า Cracker จึงถูกนำมาใช้เรียกคนที่มีความรู้ความเข้าใจต่อสิ่งใ ด สิ่งหนึ่งแต่ใช้ความรู้นั้นในทางที่ไม่ดีและขัดกับจร ิยธรรมของ Hacker ... แต่ในปัจจุบันผมว่าจริยธรรมของ Hacker ค่อยๆจางหายไปเรื่อยๆ สังเกตุได้จากบทความเก่าของผมเรื่อง "Phishing" รอเพลอ แล้วเจอกัน พลาดเมื่อไหร่ ได้เป็นเรื่อง ("Phishing" รอเพลอ แล้วเจอกัน พลาดเมื่อไหร่ ได้เป็นเรื่อง) มันกำลังแสดงให้เห็นว่าโลก Cyber กำลังอันตรายขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนต่างต้องการหาประโยชน์ใส่ตัวให้มากที่สุด ดังนั้นสมัยนี้ Hacker ฝ่ายดีหรือหมวกขาวคงมีน้อยๆลงนะ ไม่รู้อณาคตจะเป็นยังไงต่อ ... ส่วนคำว่า Cracker นั้น สำหรับผม ผมว่ามันหมายถึงคนที่ทำให้ของแท้เป็นของปลอม อย่าง Crack เกมให้ไม่ต้องใช้แผ่น ไม่มีวันหมดอายุ อย่างที่เราเห็นๆก็เช่น Razor1911 เป็นต้น

ถามว่า Hacker มี logo หรืออะไรเป็นสัญลักษณ์บ้างไหม ? มีครับ รูปนี้ไง
นี่คือเป็นสัญลักษณ์อย่างเป็นทางการของ Hacker ครับ เรียกว่า Glider เป็น Figure จากเกมคณิต "Game of Life" รูปนี้เป็นอักษรหนึ่งในชุดอักขระ ASCII ชาว Hacker ทั้งหลายชอบพิมพ์ลงเสื้อยืดใส่กัน






เรื่องน่ารู้ของ Hacker ยังมีอีกครับ ... อย่างงี้ ต้องตามไปดู
Apple FreePhone - ยุค '70 ครับ ผู้ใช้นามแฝง Berkeley Blue กับ Oak Toebark จริงๆ 2 คนนี้คือ Steve Jobs และ Steve Wozniak สร้าง Bluebox มาเพื่อปลอมชุมสาย (Phreaking) ในการหาทุนมาพัฒนาคอมพิวเตอร์เครื่องแรกของตน คนที่คิดค้น Bluebox นั้นคือ John "Captain Crunch" Craper ที่สามารถเจาะเข้าชุมสายได้โดยใช้เสียงนกหวีดจากกล่อ ง Cornflake (กรอบๆที่ใส่นมกินตอนเช้า) ... ถ้างงงงนะครับ แนะนำให้ดูหนังเรื่อง Pirates of Silicon Valley ครับ
Paranoia ที่เปลี่ยนไป - ในหนังเรื่อง WarGame ชายหนุ่มชื่อ David เจาะเข้าไปในระบบรัฐบาลจนเกือบก่อสงครามโลกครั้งที่ 3 ซึ่งในปี ค.ศ. 1983 หนังเรื่องทำเอาชาวอเมริกันหวันไหวใน Hacker ไปทั่วประเทศ จนมีคำถามต่างๆนาๆในรายการข่าวช่อง CBS ว่าพ่อแม่ควรทำอย่างไรดี ไม่อยากให้ลูกหลายติดต่อโลกอินเตอร์เน็ต จนบางคนเอาหนังสือแนะนำ Modem ไปซ่อนเลยก็มี


เจาะระบบขนส่งมวลชน - ปลายปี 2003 Hacker ที่กรุงเบอร์ลินเจาะเข้าไปในระบบเช่าจักรยานขององค์ก ารรถไฟเยอรมนี หลังจากที่ใช้เวลาเขียนโปรแกรมอยู่นานเป็นสัปดาห์ ตอนหลังมาพบเอาว่าจักรยานกว่า 200 คัน กลายเป็นให้ใช้ฟรี ต่อมาในต้นปี 2008 เกิดเหตุรถตกราง ณ เมือง Loda ประเทศโปแลนด์ ต้นเหตุมาจากเด็กอายุ 14 ที่ดัดแปลงรีโมท TV มาควบคุมระบบสับรางได้ โดยมีแนวติดมาจากระบบสับรางในรถไฟของเล่น (ผมว่ารีโมทนี้น่าจะเหมาะกัยคนมีกิ็กมากกว่า 2 คนขึ้นไปนะ ... )




กฎหมายที่ขาดไป ? - กรกฎาคม 1981 มีการจับตัว Hacker ครั้งแรกในอเมริกา ด้วยขอหาหลายกระทงอย่างเจาะเข้ากระทรวงกลาโหม แต่ตอนนั้นยังไม่มีกฎหมายที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ Pat "Captain Zap" Riddle เลยโดนข้อหาลักทรัพย์แทน เป็นงั้นไป ! ต่อมาในปี 1986 เลยมีข้อกฏหมายเพิ่ม คือ "Computer Fraud and Abuse Act" (การโกงทาง Electronic และการกำทำที่ข่มเหง)โดยคนแรกที่โดนข้อหานี้คือ Robert "rtm" Morris เพราะเขียน Worms แต่เขากลับตัวได้เลยมาเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยแท น
Hack พันล้าน - ในตำนาน Hacker ถ้าวัดกันที่มูลค่าความเสียหายมากที่สุด คือ การเจาะระบบพัฒนาเครื่องบินรบ Lockhead Martin F-35 Lightning (หรือ JSF - Joint Strike Fighter) มูลค่าโดยประมาณอยู่ที่ 300 พันล้านดอลลาร์ โดยเจาะเข้าไปใน Pentagon ในเดือนเมษายน 2009

รางวัล Oscar จาก Hacker - ปี 2008 ที่ผ่านมา Hacker ได้มอบรางวัลยอดแย่แห่งปีให้กับ McAfee ที่ตรวจพบหลายเว็บหลายๆหน้าว่า "Hacker Free" ทั้งๆที่ช่องโหว่รู้ใหญ่คือ Cross Site Scripting อยู่ แล้วก็ยังไม่ได้แก้ไขสักที ... Rating ตกไปเยอะนะสำหรับ McAfee

ขอบคุณเครดิตจาก : http://www.thaigaming.com/articles/65374.htm

ธุรกิจออนไลน์

ธุรกิจออนไลน์มีหลากหลายรูปแบบ อยู่ที่ผู้สนใจศึกษา ว่าทำแบบใดจะง่ายที่สุดสำหรับคุณ และมันเหมาะกับคุณแค่ไหน
ก่อนที่คุณจะทำธุรกิจออนไลน์เช่นนี้ คุณต้องถามตัวคุณเองก่อนว่าคุณมีเวลาท่องอยู่บนโลกอินเตอร์เน็ตบ่อยแค่ไหน ถ้าคุณอยู่กับมันได้ทั้งวัน นั่น!เป็นประโยชน์มาก เพราะว่าคุณสามารถอัพเดทได้ตลอดเวลา

มีธุรกิจออนไลน์อยู่รูปแบบหนึ่ง น่าสนใจมาก ลงทุนน้อย และเริ่มต้นได้ง่ายๆ

หลายๆคนคงรู้จัก http://www.blogger.com/ เว็บไซต์สร้างรายได้ง่ายๆ ผ่าน Google Adsense

คนมากขึ้นจะทราบบล็อกที่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ของคุณเอง มันต้องเริ่มต้นขึ้นค่าใช้จ่ายน้อยที่สุดคุณสามารถสร้างผู้อ่านประทับใจและจงรักภักดีตลอดเวลาและเมื่อคุณทราบวิธีการสร้างรายได้จากบล็อกของคุณก็ยังสามารถนำรายได้ที่ดีที่จะให้กับมาได้ในวันเมื่อคุณไม่ update ของคุณ blog


คุณสามารถใช้ Wordpress, Blogger หรืออื่นเว็บไซต์ฟรีที่โฮสต์บล็อกของคุณสำหรับคุณหรือมิฉะนั้นคุณสามารถตั้งค่าบล็อกของคุณเองภายใต้ชื่อโดเมนของคุณเอง

ถ้าคุณต้องการสร้างรายได้อย่างรุนแรงจากบล็อกคุณต้องควบคุมการบล็อกของคุณ -- และสิ่งที่บัญชีบล็อกฟรีจะไม่ให้ คุณจะผูกพันตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของพวกเขาและที่มักจะมีไม่ความสามารถในการส่งเสริมจริงจังอะไร มีมากมายของผู้ที่ได้สร้างบล็อกเท่านั้นที่จะมีมันออกโดยไม่ต้องแจ้งเป็นบางสัปดาห์หรือเดือนต่อมา จะเสียค่าใช้จ่ายคุณไม่กี่ดอลลาร์ซื้อชื่อโดเมนของคุณและตั้งค่าเว็บเซิร์ฟเวอร์ที่จะเป็นโฮสต์บล็อกของคุณ แต่ผลประโยชน์ที่ไกลจะมีค่าเกินค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องแท้จริงมันจะเป็นเพียง $ 20 ปีเรากำลังพูดถึงที่นี่ -- และที่ซื้อคุณอิสระทั้งหมด เมื่อคุณพร้อมที่จะตั้งขึ้นบล็อกของคุณคุณจะต้องเลือกชุดรูปแบบดีและแบบมัน คุณอาจพบหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่คุณเลือก (เพิ่มเติมว่าในขณะ) หรืออื่น ๆ อาจจะมีคนที่คุณเหมือนมองของ แต่มีมากมายเป็นแม่แบบสำหรับคุณใช้ -- ง่ายในการค้นหา Google จะพบคนที่จะเหมาะสมกับหัวข้อของคุณ 
 
บล็อกเป็นธุรกิจออนไลน์ชนิดหนึ่ง ที่สร้างได้ง่าย แต่คุณต้องจริงจังกับมัน เพื่อผลประโยชน์จากมันที่คุ้มค่าเกินคาด 
 
It requires minimal start up costs, you can build an impressive and loyal readership over time and once you know how to monetize your blog it can also bring in a decent income that will keep on coming even on the days when you don't update your blog. There are several ways to set up a blog online. You could use Wordpress, Blogger, or another free site that hosts your blog for you; or alternatively you can set up your own blog under your own domain name. If you want to make serious money from blogging, you must have complete control over your blog – and that's something the free blogging accounts won't give you. You'll be bound by their terms and conditions and that usually includes not being able to actively promote anything. There are plenty of people who have established a blog only to have it removed without notice some weeks or months later. It will cost you a few dollars to buy your domain name and set up a web server that will host your blog, but the benefits will far outweigh the cost involved. It can literally be as little as $20 a year we're talking about here – and that buys you total freedom. Once you're ready to set your blog up you'll need to choose a good theme and layout for it. You might find one that relates to your choice of subject (more on that in a moment) or else there might be one you just like the look of. But there are thousands of templates available for you to use – a simple search on Google will reveal the ones that will be best suited to your topic.